แพรวเป็นเด็กพนักงานออฟฟิศทำงานอยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เธอเพิ่งจะเรียนจบได้ไม่นานแล้วก็ออกมาหางานทำทันที น่าจะความที่เธอเป็นพนักงานใหม่และมีอายุน้อยเธอก็เลยจะถูกพวกคนเก่าๆ ในรุ่นพี่ที่ทำงานใช้งานเยอะมาก มีงานอะไรก็โยนมาให้เธอทำหมด เธอเป็นคนรับจบแทบทุกงาน แม่ว่าเธอเพิ่งจะเข้ามาทำงานในออฟฟิศได้ไม่นาน แต่เธอก็ต้องทำโอทีทุกวัน กว่าจะได้กลับบ้านก็ปาไปสามทุ่มสี่ทุ่มแล้ว ในขณะที่รุ่นพี่คนอื่นๆที่อยู่ในแผนกเดียวกันกับเธอกลับบ้านกันตั้งแต่ยังไม่ 5 โมงครึ่ง ถึงเวลาเลิกงานปุ๊บก็สแกนนิ้วเลิกงานทันที โดยไม่สนใจงานอะไรทั้งนั้น เวลางานมีปัญหา แพรวก็จะเป็นคนรับจบทุกอย่าง กลายเป็นแพะรับบาป โดยที่ไม่มีใครมาสนใจใยดีเธอด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ตามในความโชคร้ายของเธอมันก็ยังมีเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นบ้าง
ในขณะที่เธอต้องทำโอทีกลับบ้านดึกทุกวัน แต่เธอก็ยังได้เพื่อนใหม่จากการทำโอที ซึ่งคนๆ นั้น ก็เป็นพนักงานออฟฟิศเหมือนกับเธอ และก็เพิ่งจะเข้ามาทำงานในบริษัทแห่งนี้ได้ไม่นานเหมือนกับเธอด้วยเช่นกัน เค้าเป็นผู้ชายที่ทำงานอยู่อีกแผนกหนึ่ง แต่ว่ามีโต๊ะทำงานใกล้ๆ กับโต๊ะงานของแพรว ชายคนนั้นมีชื่อว่า “ต้อม” ในช่วงดึกตอนที่ทำโอทีก็จะมีสองคนนี้เป็นขาประจำ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทั้งสองคนจะทำความรู้จักกันเอาไว้ พอช่วงหลังเลิกงานทั้งคู่ก็จะต้องไปรอรถเมล์อยู่ที่ท่ารถเมล์เดียวกัน เพราะว่าอพาร์ทเม้นท์ที่ทั้งสองคนอยู่ก็อยู่ในทางเดียวกันแต่ว่าคนละซอย ทั้งคู่ยังไม่มีรถส่วนตัวใช้ ก็เลยต้องพึ่งรถเมล์ประจำทางไปก่อน บางทีทั้งสองคนเลิกงานดึกก็จะนั่งแท็กซี่ไปด้วยกันแล้วก็หารค่าแท็กซี่ด้วยกันก็มี และยิ่งนานไปทั้งสองคนก็เริ่มสนิทกันมากยิ่งขึ้น จนทั้งสองคนก็เริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน
อยู่มาวันหนึ่งดูเหมือนว่าฝนฟ้าอากาศจะเป็นใจ เมื่อทั้งสองคนทำโอทีจนดึกและเลิกงานประมาณสี่ทุ่ม ตอนนั้นทั้งสองคนก็ได้ชวนกันมาที่ท่ารถเมล์หลังจากเลิกงาน และระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังรอรถอยู่ตามลำพังเพียงแค่ 2 คน ตอนนั้นฝนก็ตกเทลงมา และฝนก็ตกหนักมากด้วย โชคดีที่ท่ารถเมล์ที่ทั้งสองคนรอรถอยู่นั้นเป็นท่ารถเมล์ใหญ่ มีลักษณะคล้ายๆ กับศาลา และสามารถหลบฝนได้เป็นอย่างดี ทั้งสองคนติดฝนอยู่ในท่ารถเมล์อยู่ประมาณ 10 นาทีกว่าได้ฝนก็ยังไม่มีท่าทีที่จะเบาลงเลย จังหวะนั้นทั้งสองคนได้หันมาสบตากัน ทำสายตาหวานซึ้งใส่กันและกัน จนทั้งคู่เริ่มสัมผัสได้ถึงความรู้สึกดีๆ ที่ต่างคนต่างมีให้ สายตาของต้อมที่มองไปที่แพรวนั้นมันเป็นสายตาของคนที่คิดมากกว่าเพื่อนกัน ต้อมขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆ กับแพรวท่ามกลางบรรยากาศฝนพรำ ต้อมเอาปากไปประกบกับปากของแพรว ทั้งสองคนเริ่มดูดปากแลกลิ้นกัน ความรู้สึกๆ เสียวๆ เริ่มมา ต้อมเอามือไปจับนมของแพรว ส่วนแพรวเองก็เอามือไปจับควยของต้อมเช่นกัน ต่างคนต่างมีอารมณ์เงี่ยน และในตอนนั้นก็คงจะไม่มีใครเดินตากฝนมาที่ป้ายรถเมล์ บรรยากาศส่งเสริมให้ทั้งคู่ได้เสียกันมาก แล้วทั้งสองคนก็ใช้บรรยากาศนั้นได้อย่างคุ้มค่า เย็ดกันในศาลาท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำ ไม่ว่าแพรวจะร้องครางเสียงดังมากแค่ไหนก็ไม่มีใครได้ยิน เพราะว่าเสียงฟ้าคำรามบวกกับเสียงของฝนที่ตกกระหน่ำลงมามันได้กลบเสียงทุกอย่างไปหมดแล้ว และทำให้ทั้งสองคนได้เล่นเสียวกันจนเสร็จ หลังจากนั้นทั้งคู่ต่างก็ได้เปิดเผยถึงความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันแบบเปิดอก และทำให้วันนี้ทั้งสองคนได้คบกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว